การสมัครเข้าเป็นนักศึกษา
1. คุณสมบัติ
ผู้เป็นนักศึกษาในสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาต้องเป็น
(1)
ผู้สอบไล่ได้ปริญญาตรีทางนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หรือมหาวิทยาลัยรามคำแหงขึ้นไป
(2)
ผู้ที่ได้ศึกษาวิชานิติศาสตร์ในสถาบันอื่น ในหรือนอกประเทศไทย
และสอบไล่ได้ตามมาตราฐานซึ่งคณะกรรมการอำนวยการอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
เทียบให้ไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะดังกล่าว ใน(1)
ซึ่งในทางปฏิบัติ คณะกรรมการอำนวยการอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
ได้เทียบระดับปริญญาตรีทางนิติศาสตร์
จากสถาบันการศึกษาที่ทบวงมหาวิทยาลัยได้รับรองมาตราฐานการศึกษาแล้ว
2. ระยะเวลารับสมัคร
กำหนดเปิดรับนักศึกษาใหม่ตั้งแต่ประมาณเดือนพฤษภาคม จนถึง เดือนสิงหาคม ของทุกปี
ส่วนนักศึกษาเก่าต้องชำระค่าศึกษาภายในเดือนมิถุนายนเท่านั้น ถ้าไม่ชำระภายในกำหนดเป็นอันพ้นจากสถานภาพนักศึกษา
นับตั้งแต่วันสิ้นสุดการชำระค่าศึกษา หากประสงค์จะกลับเข้าศึกษาใหม่ภายในระยะเวลา 2 ปี
นับแต่วันที่พ้นสถานภาพนักศึกษา ก็สามารถต่อทะเบียนอย่างนักศึกษาเก่าได้ พร้อมทั้งชำระค่าปรับเพิ่มอีก 500 บาท
แต่ถ้าพ้นสถานภาพนักศึกษาเป็นเวลาเกินกว่า 2 ปี นับแต่วันที่พ้นสถานภาพนักศึกษา
จะต้องดำเนินการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ และเสียค่าปรับเพิ่มอีก 1,000 บาท
3. ค่าธรรมเนียมในการศึกษา
นักศึกษาใหม่
ค่าจดทะเบียนนักศึกษา | 200 บาท |
ค่าคู่มือการศึกษา | 20 บาท |
ค่าสมุดประจำตัวนักศึกษา | 50 บาท |
ค่าภาคีสมาชิกปีละ (ถ้าเป็นสมาชิกวิสามัญของเนติบัณฑิตแล้วไม่ต้องเสีย) | 50 บาท |
ค่าศึกษาภาคปกติสมัยละ | 1,500 บาท |
(ถ้านักศึกษาภาคค่ำต้องเสียเพิ่มอีกภาคละ) | 700 บาท |
ค่าบำรุงห้องสมุดสมัยละ | 200 บาท |
ค่าสมัครสอบภาคละ | 500 บาท |
นักศึกษาเก่า
ค่าคู่มือการศึกษา | 20 บาท |
ค่าภาคีสมาชิกปีละ (ถ้าเป็นสมาชิกวิสามัญของเนติบัณฑิตแล้วไม่ต้องเสีย) | 50 บาท |
ค่าศึกษาภาคปกติสมัยละ | 1,500 บาท |
(ถ้านักศึกษาภาคค่ำต้องเสียเพิ่มอีกภาคละ) | 700 บาท |
ค่าบำรุงห้องสมุดสมัยละ | 200 บาท |
ค่าสมัครสอบภาคละ | 500 บาท |
4. หลักฐานการสมัคร
1. นักศึกษาต้องยื่นใบสมัครด้วยตนเอง
2. รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว หน้าตรงไม่สวมหมวก แต่งกายชุดสากลนิยม สวมเสื้อเชิ้ตมีผ้าผูกคอแบบเงื่อนกะลาสี สวมครุยวิทยฐานะ จำนวน 3 รูป
3. หลักฐานการสอบไล่ได้ ให้นำปริญญาทางนิติศาสตร์จากสถาบันการศึกษา
ที่คณะกรรมการอำนวยอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภารับรองมาแสดง เว้นแต่ที่ยังมิได้รับปริญญาบัตร
ให้นำหนังสือสำคัญซึ่งสภามหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยอนุมัติปริญญาแล้วมาแสดง
4. ในกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนชื่อสกุล ชื่อสกุลไม่ตรงกับบิดา หรือไม่ตรงกับชื่อสกุลที่ปรากฏอยู่ในปริญญาบัตร
ต้องนำใบเปลี่ยนชื่อ ใบเปลี่ยนชื่อสกุลมาแสดง
5. กรณีที่ประสงค์จะสมัครเรียนภาคค่ำด้วย จะต้องเพิ่มรูปถ่ายอีก 1 รูป พร้อมทั้งชำระค่าศึกษาภาคค่ำ
6. สำเนาทะเบียนบ้าน (นำต้นฉบับมาแสดงด้วย)
7. ใบแต่งตั้งยศ (ถ้ามี)
8. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
หลักสูตรการเรียนการสอน
ภาคเรียนที่หนึ่ง
กฎหมายอาญา l
กฎหมายแรงงานและวิธีพิจารณาคดีในศาลแรงงาน l
รัฐธรรมนูญและกฎหมายปกครอง l
ทรัพย์-ที่ดิน l
นิติกรรม-สัญญา l
หนี้ l
ละเมิด l
ซื้อขาย-แลกเปลี่ยน-ให้ l
เช่าทรัพย์-เช่าซื้อ-จ้างแรงงาน-จ้างทำของ l
ยืม-ค้ำประกัน-จำนอง-จำนำ l
ตัวแทน-ประกันภัย-ตั๋วเงิน-บัญชีเดินสะพัด l
หุ้นส่วน-บริษัท l
ครอบครัว l
มรดก l
กฎหมายภาษีอากร l
กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา l
กฎหมายการค้าระหว่างประเทศ
ภาคเรียนที่สอง
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง l
กฎหมายล้มละลาย l
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม l
วิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงและวิธีพิจารณาในศาลเยาวชนและครอบครัว l
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา l
สิทธิของบุคคลตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา l
กฎหมายพยานหลักฐาน l
วิชาว่าความและการถามพยาน
การบรรยาย
สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา จัดให้มีการบรรยายในแต่ละภาคของการศึกษาเป็น
ภาคปกติ ระหว่างเวลา 8.00-17.00 นาฬิกา ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เว้นวันหยุดราชการ และ
ภาคค่ำ ระหว่างเวลา 17.00-20.00 นาฬิกา ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และวันเสาร์เวลา 8.00-17.00 นาฬิกา เว้นวันหยุดราชการ
และจัดให้มีการบรรยายทบทวนในแต่ละภาคการศึกษาของทุกวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 8.00-17.00 นาฬิกา
ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่แผนกตำราและคำบรรยาย โทร 887-6801-09 ต่อ 106
หรือ 887-6814
การจบหลักสูตร
ผู้ที่จะถือว่าจบหลักสูตรเป็นเนติบัณฑิตได้นั้น จะต้องสอบผ่านการสอบข้อเขียนทั้งสองภาค
โดยในการสอบแต่ละภาคจะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ขึ้นไป และผ่านการสอบปากเปล่า
ผู้ที่สามารถสอบผ่านภาคหนึ่งภาคใดได้ ไม่ต้องสอบข้อเขียนของภาคนั้นอีก แม้ว่าจะสอบข้อเขียนอีกภาคหนึ่งตก
เมื่อสอบได้ทั้งสองภาคจึงมีสิทธิสอบปากเปล่า
การสอบปากเปล่า กรรมการผู้สอบจะวินิจฉัยเพียงว่า "สอบได"้ หรือ "สอบตก" เท่านั้น
ถ้าผู้สอบปากเปล่าผู้ใดสอบตก ผู้นั้นมีสิทธิเข้าสอบปากเปล่ากับคณะกรรมการซึ่งตั้งขึ้นเพื่อการนั้นในวันเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าผู้สอบปากเปล่าตกในการเรียนสมัยใด(หรือปีใด) ผู้นั้นมีสิทธิสอบแก้ตัวอีกสามครั้ง
หากยังสอบไม่ผ่านอีกเป็นครั้งที่สาม ให้ถือว่าการสอบข้อเขียนทั้งสองภาคที่ได้ไว้แล้วนั้นเป็นอันยกเลิก
รายละเอียดอื่นๆ
- คำอธิบายรายวิชา
- ปฏิทินการศึกษา
- ประเภทของสมาชิกและการสมัครเป็นสมาชิก
|