เดลินิวส์ 21/1/2543
เจ้าคณะภาค 1 ขัดมส. ลาออกแล้วต้องสึก
วงการสงฆ์ป่วนไม่เลิก ขัดแย้งกรณี"พระพรหมโมลี"สะบัดก้นลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้พิจารณา ระบุถ้าออกจริงต้องพ้นตำแหน่ เจ้าคณะภาค 1 ด้วย "พระปริยัติวโรปการ"เตรียมเดินหน้าฟัน"ไชยบูลย์" เผยเรียกรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ไม่มาส่งเรื่องตามลำดับชั้นแน่ ที่เหลือเป็นหน้าที่คณะผู้พิจารณาชั้นต้นลุยกันเอง "สมศักดิ์"ยอมรับยังไม่เห็นหนังสือเจ้าคณะภาค 1 ขอลาออก วัดพระธรรมกายหมดสภาพยอมเสนอชื่อรักษาการเจ้าอาวาสแล้ว เชื่อมีปัญหาแน่เพราะต้องอธิกรณ์ตามมติมหาเถรฯ
หลังจากที่มหาเถรสมาคมมีมติเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ยืนยันให้มีการดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายแล้วนั้น เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ม.ค. พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวที่วัดมูลจินดารามว่า ยังไม่ได้รับมติมหาเถรฯจากกรมการศาสนา เพราะเพิ่งจะเดินทางกลับมาจากการเดินทางไปร่วมงานศพ โยมมารดาของเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก จึงยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก ต้องหารือกับพระผู้ใหญ่ก่อน
ส่วนเรื่องการลาออกจากหัวหน้าคณะผู้พิจารณาชั้นต้นของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 นั้น ต้องดูกฎของคณะสงฆ์ด้วย เพราะหากว่าพระพรหมโมลีลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้พิจารณาชั้นต้น ก็ต้องออกจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 ด้วย จากนั้นสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลางก็จะพิจารณาแต่งตั้งผู้มารับตำแหน่งใหม่ คิดว่าที่ยังไม่มีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง ออกมาเพราะยังไม่แน่ใจว่าพระพรหมโมลีลาออกจากตำแหน่งจริงหรือไม่ ขระนี้จึงไม่สามารถบอกแนวทางในการดำเนินการได้
"คิดว่าจะต้องเรียกนายไชยบูลย์มารับทราบข้อกล่าวหาเป็นครั้งที่ 4 แต่ต้องรอหารือพระเถระชั้นผู้ใหญ่ก่อน เพราะไม่อยากส่งเรื่องไปยังพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 อีก เคยส่งไปถึง 2 ครั้งแล้วท่านก็ไม่รับ เท่าที่ดูรู้สึกว่าเจ้าคณะภาค 1 มีท่าทีที่ชัดเจนกับเรื่องนี้มาก และอาตมาก็เป็นเพียงพระชั้นผู้น้อยเท่านั้น"
ด้านพระปริยัติวโรปการ เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งกล่าวว่า คาดหมายไว้ล่วงหน้าแล้วว่ามติมหาเถรฯจะต้อง ออกมาลักษระนี้ คงจะไม่มีทางหลีกเลี่ยงเป็นอื่นไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมีความชัดเจนในการดำเนินการต่อไป ถึงตอนนี้รู้แล้วว่าต้องดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมใหม่ จะได้ดำเนินการให้เสร็จลุล่วงไป ในเมื่อขณะนี้ทุกอย่างชัดเจนหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องหนักใจอีก
เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งกล่าวด้วยว่า จะเรียกนายไชยบูลย์และพระทัตตชีโวมารับทราบข้อกล่าวหา และถ้าไม่มาอีกก้ไม่ต้องรออะไรแล้ว ทำรายงานเสนอต่อเจ้าคณะภาค 1 ได้ทันที จากนั้นจะทำอย่างไรหรือไม่ทำ อะไรก็เป็นเรื่องของเจ้าคณะภาค 1 แล้ว เพราะอย่างไรก็ต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชา แต่เมื่อถึงขั้นนั้นก็อาจจะมีการเปลี่ยนให้พระพรหมโมลีไปดำรงตำแหน่งอื่น แล้วสรรหาพระราชาคณะชั้นธรรมมาแทน อย่างไรก็ตามพระพรหมโมลีลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้พิจารณาไม่ได้ เพราะมีข้อบังคับไว้ แต่การเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่มีความตั้งใจมาก่อนหน้านี้แล้ว
พระมหาบุญถึง ชุตินธฺโร ประธานศูนย์รวมสงฆ์ภาคอิสาน 19 จังหวัดเปิดเผยว่า ถึงวันนี้ทุกอย่างมีความชัดเจนแล้วว่า พระพรหมโมลีเป็นพระที่ดื้อรั้นที่สุด มีความผิดชัดเจน 5 ประการคือ 1.ผิดต่อสมเด็จพระสังฆราช เพราะไม่สนองพระลิขิต 2.ปฏิบัติขัดมติมหาเถรฯ 3.ขัดคำสั่งสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ในฐานะผู้บังคับบัญชา 4.ผิดต่อพระธรรมวินัย และ 5.ผิดต่อพุทธศาสนิกชน ทั้งหมดเป็นความผิดใหญ่หลวง จะต้องปลดออกจากตำแหน่งทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว ทางที่ดีควรจะสึกจากความเป็นพระด้วย
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการกล่าวว่า ขณะนี้หลายคนค่อนข้างสับสนกับกระแสข่าว การลาออกจากการเป็นกรรมการมหาเถรสมาคมของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 แต่จากการสอบถามนายไพ บูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา ล่าสุดได้รับการยืนยันว่ายังไม่เห็นใบลาออกหรือหลัก ฐานใดๆที่แสดงว่าพระพรหมโมลีขอลาออก
"ที่มีข่าวว่า พระพรหมโมลีขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินการตามกฎมหาเถรฯนั้น ผมยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ได้สั่งการให้นายไพบูลย์ไปทำรายงานการประชุมเต็มรูปแบบมาให้ อย่างไรก็ตามเวลานี้ยังไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ว่าพระพรหมโมลีจะไม่ดำเนินการต่อ แม้จะไม่เห็นด้วยกับมติมส. แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ปฏิบัติในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่เชื่อว่าพระพรหมโมลีจะไม่เคารพกฎกติกาของสงฆ์ ดังนั้นเวลานี้ต้องรอให้มีการรับรองรายงานการประชุมที่ชัดเจนและส่งรายงานไปตามขั้นตอนก่อน หากพระพรหมโมลียังยืนยันที่จะไม่ดำเนินการก็ค่อยมาว่ากัน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของมส. กระทรวงศึกษาฯคงไม่เข้าไปก้าวก่าย"
ด้านนายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯกล่าวว่า ในการประชุมมหาเถรฯนั้น พระพรหมโมลีแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะไม่ดำเนิน การต่อ เมื่อเป็นเช่นนี้คงต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้พิจารณาชั้นต้นแต่ จะเปลี่ยนอย่างไรให้เหมาะสมคงต้องหารือกับพระผู้ใหญ่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงก็มีอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 การเปลี่ยนตัวเจ้าคณะภาค 1 หรือคงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 ไว้ตามเดิมแล้วหาคนอื่นมาเป็นผู้พิจารณาแทน อย่างไรก็ตามเรื่องการนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากไม่มีระเบียบหรือกฎข้อใดบอกไว้ชัดเจน
ในวันเดียวกันมีรายงานข่าวจากวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง ปทุมธานีว่า ขณะนี้คณะกรรมการวัด ได้หารือและเสนอชื่อ ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดต่อพระปริยัติวโรปการแล้ว คือพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็คือพระปริยัติวโรปการจะเสนอขอความเห็นชอบจากเจ้าคณะอำเภอคลองหลวงต่อไป อย่างไรก็ตามอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้มาดำรงตำแหน่งใหม่ เนื่องจากมหาเถรฯให้ดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมกับพระทัตตชีโวด้วย ที่ผ่านมาทางคณะกรรมการคิดว่าเรื่องนี้จบสิ้นไปแล้วจึงได้เสนอชื่อพระทัตตชีโวมา