เดลินิวส์ 23/1/2543
ยังไม่ชัดพระพรหมโมลีลาออก พ้นหน.คณะพิจารณาไชยบูลย์
ไม่ชัดพระพรหมโมลีลาออกจากคณะผู้พิจารณากฎนิคหกรรมหรือยัง "วิชัย"เตรียมเข้าพบสมเด็จ วัดชนะฯสะสางให้เสร็จสิ้น ระบุงานนี้ถ้าไม่ได้พระบารมีสมเด็จพระสังฆราชการ นำตัว"ไชยบูลย์"มาขึ้นศาลสงฆ์มีหวังเหลวอีกตามเคย เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง ลุยแหลกธรรมกายทำหนังสือต่อว่าถูกกลั่นแกล้ง บอกแต่ตัวเองไม่ผิดทั้งที่ไม่เคยโผล่ มารับฟังข้อกล่าวหา
ปัญหาที่พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ลาออกจากตำแหน่ง การเป็นหัวหน้าคณะผู้พิจารณาชั้นต้นกรณี การฟ้องร้องนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายตามกฎนิคหกรรมหรือลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 หรือไม่ และยังเป็นประเด็นที่สับสน
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมานายวิชัย ตันศิริ รมช.กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จนถึงคณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ในเรื่องการลาออก ของพระพรหมโมลี 1 ซึ่งต้องรอให้ทางกรมการศาสนารายงานมาให้ทราบก่อน แต่ในวันที่ได้เข้าร่วมประชุมในที่ประชุม มหาเถรสมาคม(มส.)เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น พระพรหมโมลีเพียงกล่าวว่า หากให้ทำหน้าที่ผู้พิจารณาชั้นต้นต่อไปอีก ผลการวินิจฉัยก็จะออกมาเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง "การจะลาออกหรือไม่นั้นคงไม่สามารถตอบแทนพระพรหมโมลีได้ และที่สำคัญการลาออกเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาตามสายงาน จึงไม่สามารถพูดได้ว่ามีการลาออกจากตำแหน่งใด "
อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้าตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.เป็นต้นไป นายวิชัยกล่าวว่าจะได้เดินทางไปนมัสการ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนกลางเป็นลำดับแรก โดยจะนมัสการหารือเกี่ยวกับการดำเนินการกรณีวัดพระธรรมกายว่าจะมีแนวทางอย่างไรต่อไป
นอกจากนี้ก็จะได้นมัสการพระเถรชั้นผู้ใหญ่อีกหลายรูป ทั้งนี้เพื่อขอคำแนะนำในการดำเนินการตามกฏนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ ตามที่มส.ได้มีมติให้ดำเนินการต่อไป
พระมหาบุญถึง ชุตินธโร ผประธานศูนย์รวมสงฆ์ชาวอีสาน 19 จังหวัดกล่าวว่า การที่พระพรหมโมลีไม่ยอมดำเนินการตามกฎนิคหกรรม กับนายไชยบูลย์ทั้งที่มหาเถรฯมีมติชัดแล้ว เท่าที่ทราบเพราะมีพระผู้ใหญ่ชั้นสมเด็จให้การหนุนหลังอยูแบบลับ ๆ ทำให้พระพรหมโมลีมั่นใจว่าไม่ใครดำเนินการใด ๆ ได้ อย่างไรก็ตามนับเป็นโชคดีที่มีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ยืนอยู่ข้างความถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย โดยไม่ให้สิ่งใดดึงออกไปจากหลักธรรมได้
"มาถึงวันนี้เห็นชัดแล้วพระพรหมโมลี ไม่ได้ยืนอยู่ข้างพระพุทธศาสนา ไม่ได้ยืนข้างพระธรรมวินัย แต่อยู่ข้างธรรมกาย และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยในฐานะมหาวิทยาลัยสงฆ์ควรจะออกมาแสดงจุดยืน ชี้สิ่งผิด ชี้สิ่งถูกให้พุทธศาสนิกชน ที่ผ่านมาบทบาทของมหาจุฬาฯมีน้อยมาก ทั้งที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลปัญหาธรรมกายและการที่พระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตโต) ถูกโจมตีจากสื่อของธรรมกาย"
รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยว่าการที่พระพรหมโมลี ขอสงวนสิทธิ์และไม่ขอดำเนินการ กระบวนการตามกฎนิคหกรรม เท่ากับว่าเป็นการบอกเป็นนัยว่าต้องการลาออกจากหัวหน้าคณะผู้พิจารณาชั้นต้น ซึ่งการลาออกนั้นทำไม่ได้ เนื่องจากมีกฏข้อบังคับอยู่ นอกจากจะมีการเปลี่ยนตัวเจ้าคณะภาค ให้ไปอยู่ที่ภาคอื่น ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง
สำหรับการประชุมมหาเถรฯ เมื่อวันที่ 19 มค.ที่ผ่านมา เกือบไม่สามารถแก้ไขปัญหาธรรมกายได้ ถ้าสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ไม่เสด็จมาโดยได้มีเจ้าหน้าที่ของกรมศาสนาเข้าเฝ้า สมเด็จพระสังฆราช เพื่อกราบทูลให้ทราบว่า การประชุมในวันนั้นจะมีกรรมการ มส.มาประชุมไม่ครบ เนื่องจากเท่าที่ทราบล่าสุด มีพระเถระลาหลายรูป โดยสมเด็จพระสังฆราชฯทรงตรัสว่า ท่านจะคอยจนกว่าองค์ประชุมจะครบ แล้วท่านจะเสด็จไปเป็นประธานที่ประชุมเอง "หากสมเด็จพระสังฆราชไม่เสด็จลงมาเป็นประธาน จะยุ่งเพราะสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศก็ไม่อยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้นผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคือสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เมื่อไปอยู่ตรงนั้น ท่านก็ไม่สามารถเสนอเรื่อง หรือพูดอะไรได้ เหตุการณ์ในวันนั้น เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน"
ทางด้านพระปริยัติวโรปการ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต รักษาการเจ้าคณะตำบลคลอง 1 เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้ง รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า ได้รับหนังสือความเห็นชอบจาก รักษาการเจ้าคณะอำเภอเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต่อไปนี้ก็เป็นหน้าที่อาตมาที่ต้องดำเนินการแต่งตั้ง พระเผด็จ ทัตตชีโว ขึ้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัด พระธรรมกาย อย่างไรก็ตามช่วงนี้ มีภาระกิจด้านสงฆ์มาก จึงยังไม่สามารถ แต่งตั้งได้ ซึ่งคิดว่าภายในสัปดาห์หน้า ก็คงต้องดำเนินการแต่งตั้งให้เรียบร้อย
พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าปัญหาธรรมกายยังไม่มีความคืบหน้า แม้มหาเถรฯจะมีมติให้ดำเนินการไปแล้ว แต่มีหลายจุดที่ธรรมกายจะออกมาโต้แย้ง เพราะเดิมวัดก็ไม่ยอมทำตามมติมหาเถรฯอยู่แล้ว การดำเนินการกับธรรมกายต้องใช้กฎหมาย บ้นเมืองมาจัดการเพราะชัดจเนกว่า สุดท้ายเชื่อว่าจะจบทางกฎหมายบ้านเมืองไม่ใช่ทางสงฆ์
พระมหาปัญญา ขันติธัมโม รักษาการณ์เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เปิดเผยว่า ธรรมกายได้ส่งหนังสอื แต่งตั้งพระเผด็จเป็นรกัษา การเจ้าอาวาสมาให้ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. โดยหนังสือมีความยาว 3 หน้า และบ่นตัดพ้อต่อว่าทางจังหวัด,อำเภอและรักษาการณ์เจ้าคณะ ตำบลกลั่นแกล้งนายไชยบูลย์และพระเผด็จให้ต้องมลทินทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เคยต้องอธิกรณ์หรือทำให้เสือมเสีย แต่ถูกพระผู้ใกล้ชิดแกล้ง มีควาลำเอียงในการปกครอง จนทำให้วัดพระธรรมกายถูกสังคมตัดสินเป็ฯวัดทำไม่ไดี ไม่ถูก ทำกันถึงขึ้นสั่งพักเจ้าคณะตำบลรูปเดิมและเอาพวกพอ้งขึ้นมาใส่ร้ายธรรมกาย
หลังจากได้รับจดหมายจากธรรมกายพระมหาปัญญาก็กล่าวว่าได้ปรึกษากับเจ้าคณะจังหวัด และได้ลงนามแต่งตั้งให้พระเผด็จรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไปก่อน และตั้งแต่เกิดปัญหาการฟ้องร้องตามกฎนิคหกรรมยังไม่เคยพูดคุยกับผู้ถูกกล่าวหามาก่อน เพราะไม่ยอมมารับฟังอข้อกล่าวหาโดยอ้างเหตุต่าง ๆ นาน ๆ แต่มาบอกว่ากฎนิคหกรรมสิ้นสุดไปแล้ว ซึ่งพูดขึ้นมาเองทั้งนั้น ทั้งที่มิตมหาเถรฯออกมาแล้วก็ไม่สนใจ ยืนกระจ่ายขาเดียว และน่าจะอกมาโต้แย้งหาเหตุผลลบล้างข้อกล่าวหา ไม่ใช่บอกอย่างเดียวไม่ผิด ซึ่งฟังไม่ขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้สาวกธรรมกายได้รุกรานในหลายวัด อาทิได้มีการส่งสาวกไปหาพระครูสุธรรมานุศาสน์ เจ้าอาวาสวัดปุรณาวาส เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เพื่อขอพระกับเณร ไปฝึกอบรมให้เป็นพระที่แท้จริงที่วัดพระธรรมกาย แต่ถูกปฏิเสธเพราะที่วัดสอนธรรมะตามพระไตรปิฎก ไม่จำเป็นต้องไปที่วัดพระธรรมกาย ซึ่งทำให้สาวกวัดธรรมกายโกรธ และเดินทางกลับ อีกไม่กี่วันต่อมามีพระซึ่งสาวกวัดพระธรรมกายแจ้งว่า เป็นพระที่เก่งวิชาธรรมกาย บุกรุกเข้ามายังกุฏิ และโอ้อวดวิชชาธรรกมาย
นอกจากนั้นยังมีรายงานข่าวจากจ.น่านแจ้งว่าลัทธิดูดทรัพย์ที่วัดพระธรรมกาย ได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว นี้มีหลายวัดในจังหวัดน่าน ซึ่งเคยเดินทางไปที่วัดพระธรรมกาย ออกระดมทุนชาวบ้าน กลายเป็นสาขาธรรมกาย ด้านนายพันธ์ สุริยพร รองอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาสั่งคดีกรณีวัดพระธรรมกายว่าขณะนี้ คณะกรรมการกำลังเร่งพิจาณาสั่งคดีอยู่ โดยยังตกค้างการสอบสวนอยู่ โดยได้มีการสั่งการให้สอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็นด้วยกัน
ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือจากพนักงานสอบสวนเป็นอย่างดี โดยมีการสอบพยานเพิ่มเติมและทยอยส่ง มายังสำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามเรื่องของการสั่งคดีนั้นจำเป็นต้องอาศัยความสุขุม และรอบคอบ ทั้งนี้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ก็จะเรียกคณะกรรมการมาประชุมร่วมกันอีกครั้ง