| A'PEXi INTEGRA (part 2) | ||||||||
 จากวันนั้น ช่วงเดือน 6 ที่ทาง OPT2 ได้บุกเข้าไปในโรงงานลัพธ์ของ A'PEX และได้เห็นภาพของ INTEGRA คันหนึ่งที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ แต่ในวันนี้ภาพอันนั้นได้เปลี่ยนไปอย่างไม่คาดฝัน โครงสร้างหลักของรถคันนี้นั้นจะใช้เป็นแบบ pipe frame โดยเลือก Chorome molybdenum steel เป็นวัตถุดิบสำหรับทำโครงสร้างนี้ (ใครพอทราบภาษาไทยของวัตถุดิบนี้รบกวนช่วยเมล์มาบอกด้วยนะครับ) ซึ่งจะเป็นช่วงส่วนหน้าถึงกลางคันที่ใช้โครงอันนี้ ก็คือว่าส่วนของที่เป็นของเดิมที่ติดมากับ INTEGRA นั้นจะมีก็เป็นส่วนของหลังคากับด้านท้ายเท่านั้น นอกนั้นถูกเปลี่ยนไปจนหมดจนอาจจะไม่หลงเหลือ ความเป็น INTEGRA แต่ไม่ต้องกลัวเพราะว่าทาง A'PEX ได้วางแผนอยู่แล้วว่าหลังจากที่ทำสีอะไรเรียบร้อยแล้วหน้าตาก็ยังคงออกมาเป็น INTEGRA รุ่นตากลมสี่ดวงอยู่ดี ซึ่ง A'PEX เองก็พยายามจะสร้างให้ออกมาอย่างนั้น เครื่องยนต์นั้นใช้เป็นเครื่อง H22A ที่อยู่ใน HONDA PRELUDE (BB4) แล้วใครที่เป็นคนใช้รถของฮอนด้าถ้ามองรูปนี้ปุ๊บก็คงจะรู้สึกอะไรบางอย่าง เพราะว่าตำแหน่งในการวางเครื่องของรถคันนี้นั้นกลับด้านอยู่ ที่กลับด้านอยู่ก็เพราะว่าได้นำ เกียร์ซีเควนเชียลของบริษัท "เอ็กซ์แทรก" มาร่วมกับเครื่องตัวนี้ เลยทำให้เครื่องต้องวางในแบบที่เห็นในรูปและเหตุผลที่อยากจะใช้เกียร์ของเอ็กซ์แทรกนั้นก็เพราะว่า สิ่งสำคัญของ DRAG FF นั้นจะต้องใช้ส่วนหน้าเป็นตัวขับเคลื่อนเป็นหลัก (การถ่ายน้ำหนัก) ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเลือกระบบขับเคลือนที่ดีที่สุด สำหลับเกียร์ตัวนี้เดิมทีได้ถูกพัฒนามาเพื่อใช้กับ รถเครื่องวางกลางเท่านั้น ดังนั้นพอเอามาใช้ร่วมกับขับหน้าจึงมีปัญหากับตำแหน่งของเครื่องมาอยู่ข้างหน้าแล้วยังต้องตั้งให้เครื่องเอียง 33 องศา และยังเรื่องของเพลาอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นพวกอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากก็นำมาวางไว้หลังกันชนหน้าหมด เพื่อทำน้ำหนักให้มาลงยังล้อหน้าให้ได้มากที่สุด ส่วนของตัวถังนั้นก็ทำการดึงให้มีความใหญ่(กว้างขึ้น) และต่ำลงด้วย เพื่อจะได้สามารถรับกับดาวน์ฟรอสที่จะเกิดขึ้น จากการคำนวณนั้น แรงกดของดาวน์ฟรอสจะเกิดขึ้น 800 กก. ในขณะที่วิ่งอยู่ที่ความเร็ว 200 กม./ชม. อีกอย่าหนึ่งเกี่ยวกับ บีกขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ข้างหลังในรูปแบบของรถ GT
นั้นว่าจำเป็นขนาดไหน ก็เพราะว่าเวลาเวลาวิ่งนั้น จะมีการถ่ายน้ำหนักมาข้างหน้าอย่างมากและการยกที่เกิดจากลม
อาจจะทำให้ด้านท้ายนั้นลอยขึ้นได้ และจะมีผลถึงการวิ่งของรถอย่างมั่นคง ปีกขนาดใหญ่อันนี้จึงเข้ามามีส่วนสำคัญอันหนึ่งสำหรับรถคันนี้
แต่ก็ต้องดูกันอีกทีในขณะที่แข่งจริงเพราะว่าไม่แน่เวลาวิ่งจริงๆ แล้วอาจจะวิ่งได้อย่างไม่มีปัญหาเลย
ซึ่งเวลานั้นคงจะถอดปีกอันนี้ออก
|
||||||||
|
||||||||
|
||||||||
ส่วนของเครื่องนั้นนอกจาก
ฝาสูบ กับ ฝาครอบแคมแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ที่เห็นอยู่เป็นชิ้นส่วนจาก A'PEX ทั้งสิ้น
เทอร์โบก็ใช้ AX-53B70 สองตัวสำหรับเครื่องฮอนด้า ซึ่งในหนึ่งลูกเทอร์โบนี้น่าจะทำกำลังออกมาได้ประมาณ
420ps และเมื่อใส่เข้าไป 2 ตัวก็คง.... แต่ว่าในช่วงแรกคงเช็ตไว้ที่ประมาณ 600-650ps. แคมของ
VTEC ก็ล็อคใช้แต่แคมสูงอย่างเดียว
ระบบของโช๊คที่เป็นแบบกลไก สามารถสร้างสโตกให้กับโช๊คได้เป็นสองเท่าของการปริมาณสโตกของล้อที่ยุบตัวลง ซึ่งระบบนี้จะสามารถช่วยให้กำลังลงสู่ยางได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพผิวที่แย่ของสนามแข่งในอเมริกาด้วยแล้ว
ยางที่เลือกใช้เป็นแบบ "Drag Slick" และขนาดที่ใหญ่กว่าของ GT-R หนึ่งไซส์ และในปัจจุบันที่มีการพูดถึงแรงดันในซุ้มล้อ(แรงที่จะดันให้ตัวถังรถลอยขึ้น) ก็จะทำการป้องกันด้วยให้แรงนั้นไหลออกไปทางด้านหลัง และก็สามารถจะสร้างดาวน์ฟรอสอีกด้วย
สำหรับรถคันนี้ในเวลาออกตัวนั้นจะใช้คลัชแบบธรรมดา แต่พอออกไปแล้วจะมีไฟคอยเตือนให้เปลี่ยนเกียร์ ซึ่งคนขับจะใช้เท้าเหยียบแป้นเปลี่ยนเกียร์ เนื่องจากคนขับจำเป็นที่จะต้องใช้มือทั้งสองข้างจับพวกมาลัยที่จะมีแรงฉุดอย่างแรงจากเครื่องไปจนถึงเส้นชัยนั่นเอง และส่วนของที่นั่งตรงกลางนี้จะเป้นที่นั่งโดยเฉพาะของ นักขับชื่อดังของ A'PEX "yamada eiji"
น้ำหนักของ pipe frame จะอยู่แถวๆ ประมาณ 188 กก. จากการคำนวณนั้นน้ำหนักโดยรวมของรถคันนี้จะมีประมาณ 720-750 กก. และยังมีอุปกรณ์อีกอย่างที่มีส่วนสำคํยมากในรถ FF อีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ "Wheelie Bar"(จากรูปเหล็กที่ยืนออกมาจากกันชนหลังและมีรถเล็กๆ ติดอยู่)