Tuning MR2 II

SW รุ่นหลังเจ๋งกว่าจริงเหรอ!?!
เรื่องนั้นไม่จริงเสมอไปหรอก!!
สวน SW III(รุ่นไม่มีแอร์โฟล์) ด้วย SW II (รุ่นมีแอร์โฟล์)เนี้ยะแหละ !!

ปรับบูตส์ให้กับ SW II
"ผมเพิ่งจะโดน SW III สวนมาไม่เป็นท่าเลย ทำอะไรสักอย่างให้รถผมหน่อยซิครับ แต่ว่าเอาถูกๆ นะ" ด้วยความคับแค้นใจของ ogawa คุง ที่นำรถ SW II ของตัวเองไปปรึกษา misawa ซังแห่งร้าน "alfa"

"ogawa คุงได้ปรับบูตส์ไปที่ 1.0 บาร์ใช่เปล่า? แค่นี้ก็เร็วแล้วนา"
"ก็จริงนะครับ แต่ว่าอัตราเร่งของ รุ่น III กับของผมมันคนละเรื่องเลยนะครับ"
"ถ้าอย่างนั้นต้องเอาเทอร์โบลูกใหญ่หน่อยมาใส่น่าจะดีนะ แต่ว่าถ้าทำอย่างนั้นต้องใช้เงินพอสมควรอยู่นา อะ! ถ้าอย่างนั้นลองอันนี้ดูดีเปล่า ไม่ต้องทำอะไรกับเครื่องมากด้วย ทอร์คก็มา แล้วความรู้สึกดีขึ้นแน่นอน ยิ่งกว่านั้นต่อให้ รุ่น III เพิ่มบูตส์มาก็ไม่อยู่ในสายตาอยู่แล้วล่ะ ลองอันนี้ดูละกันเพราะว่ายังมีอยู่อย่างที่รุ่น II นี้ยังไปได้อีกเยอะนะ"


เทอร์โบรุ่นหลังมีขนาดที่ใหญกว่า ก็แรงแรงกว่า

รุ่น III ที่ปรับบูตส์เพิ่มกับ รุ่น II ที่ทำการเปลี่ยนเทอร์โบ จะได้กำลังออกมาที่เท่าๆ กัน ก็จริงอยู่ แต่ถ้าใครมาพูดว่ารถใหม่แรงกว่าอันนี้ให้อภัยไม่ได้เลย แต่ว่าถ้าทำรุ่น II ให้ดี แล้วปรับบูตส์เพิ่มเข้าไปอีกหน่อย รุ่น III ก็เอาไม่อยู่


ภาพบน : แคมของ BLITZ (IN 264 / 9.56mm. - EX 264 / 9.12mm.)
ภาพล่าง : หลังจากถอดแอร์โฟล์ออก

"รุ่น III ปรับบูตส์ที่ 1.2 บาร์จะมีแรงออกมาประมาณ 300ps / รุ่น II ที่ปรับบูตส์ไว้ที่ 1.0 บาร์จะมีแรงม้าออกมาประมาณ 280ps แต่ว่าสำหรับรุ่น II นี้พอถึงประมาณ 5500 - 6000 รอบ บูตส์จะเริ่มอาการรั่ว และจะตกไปอยู่ประมาณ 0.8 บาร์ในที่สุด ถึงจะพูดว่าเป็น 3S เทอร์โบเหมือนกันก็จริง แต่ว่าขนาดของเทอร์โบนั้นแตกต่างกัน อันนี้แหละคือจุดสำคัญ ดังนั้นถ้าจะพูดง่ายๆ ก็คือไปเอาเทอร์โบของรุ่น III มาใส่ก็ใช้ได้แล้วก็เร็วด้วย เพราะแค่เพียงแต่งตรงช่วงทางออกไอเสียนิดหน่อยก็ใส่ได้สบาย แต่ว่าราคานั้นเกือบๆ แสนเยนเลยทีเดียว ดังนั้นไปหาของเก่ามาใส่ก็ดีเพราะว่าหาง่ายและก็ถูกกว่ามากซึ่งถ้าใส่เทอร์โบของรุ่น หลังเข้าไปแล้วช่วงของกำลังจะเพิ่มขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มกำลังตรงนี้ก็ไปหาแคมองศาสูงมาใส่ ซึ่งที่นี่มีแคม 3S ที่เป็นของ BLITZ อยู่แล้ว และสามารถที่จะใส่ได้กับเฟืองแคมเดิมได้ทันทีด้วย แล้วก็เรื่องของแอร์โฟล์ซึ่งตรงนี้อยากจะให้เอาออกไปเพราะว่าจะเป็นตัวทำให้ลมเข้ามาได้ไม่สะดวก อันนี้ค่อนข้างจะมีผลกับกำลังพอสมควรทีเดียว นอกจากนั้นในกรณีถ้าแต่งแบบนี้ก็สามารถจะเอา ECU หลักกับ NKS F-CON ของ รุ่น III มาใช้ได้เลย แต่ถ้ามีแอร์โฟล์ก็ใช้ ECU หลักของรุ่น II กับ NKS PFC F-CON ก็ใช้ได้เหมือนกัน ส่วนของหัวฉีดเดิมทีใช้ 430cc อยู่นั้นคงจะไม่พอต้องไปหา 530cc มาเปลี่ยนก็ดี แล้วยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคอื่นๆ อย่าง HKS GCC ใช้ปรับน้ำมันให้ละเอียดขึ้นซึ่งถ้ามีก็ดี แต่ว่าในจุดนี้ถ้าปรับบูตส์ไว้สักประมาณ 1.1 - 1.2 บาร์ ก็มีแรงออกมาอยู่ที่ประมาณ 350ps. อย่างไม่ยากนัก และถ้าใช้กำลังตรงนี้ได้อย่างเต็มที่นะ แรงจนเสียวไปเลยดีกว่า"


ถ้าทำแบบนี้สำหรับรุ่น II ก็สามารถปรับได้ถึง 1.2 บาร์ และถ้าเป็นไปได้หาปรับบูตส์ไฟฟ้ามาใช้ด้วยจะดีมาก

ส่วนของ FEELING
"ถ้าพูดไปแล้วบูตส์จะมาช้ากว่าของรุ่น II หน่อย แต่ว่าถ้าตั้งบูตส์ไว้ที่ 1.2 บาร์ แล้ววิ่งไปถึง 6500 - 7000 รอบ บูตส์ก็ยังไม่รั่ว ถึงจะรั่วก็จะตกมาอยู่ประมาณ 1.0 บาร์ ก็ยังถือว่ายังใช้ได้อยู่ใช่เปล่า" misawa ซังกล่าว


รูปซ้ายเป็นเทอร์โบของ 7M-GTE ของ SUPRA JZA70 ซึ่งหาของเก่าได้ง่าย และถ้าใช้ตัวนี้ก็จะได้กำลังเยอะกว่าเทอร์โบของ 3S
รูปขวา 5ZIGEN BORDER2

สำหรับการเซ็ตติ้งของ alfa นี้ เค้าจะให้เจ้าของรถขับรถที่ทำเสร็จออกไปลอง พร้อมกันนั้นตัว misawa ซังเองก็จะแบกคอมพิวเตอร์ขึ้นไปนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยในเวลาเดียวกัน เพื่อที่จะสามารถเซ็ตให้กับทั้งรถ และทั้งคนด้วย
"เพราะผมอยากจะถามความรู้สึกในขณะขับว่าเป็นยังไงด้วย แล้วผมคิดว่ามันน่าจะเซ็ตได้แม่นที่สุดถ้าใช้วิธีนี้"
ซึ่งวิธีนี้สามารถที่จะไขความไม่พอใจได้ในทันที
"อืม ถึงตรงนี้แล้วสำหรับรุ่น III นั้นคงจะกินได้สบายอยู่แล้ว ลองไปสวนดูก็แล้วกัน" misawa ซังกล่าว
"เข้าใจแล้วครับผม" ogawa คุงที่ตอบด้วยความสบายใจขึ้น

ฝากไว้สำหรับเจ้าของรุ่น III นะว่าอย่ามาดูถูกรุ่น II เป็นอันขาด เพราะอาจจะเจอสวนเอาไม่รู้ตัวด้วย ระวังไว้ !!!


Written : 6/12/1999