ความในใจ






จากความรู้สึกในวันนี้..............(02/11/97)

จากที่ได้เห็นในวันนี้ .. รู้สึกดีค่ะ เด็กๆ น่ารักดี ตรงที่เค้ากล้าที่จะแสดงออก กล้าที่จะพูด อัธยาศัยดี เด็กพวกนี้น่าสงสารนะคะ ที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัวอย่างเราทั่วไป ที่มีทุกอย่างครบ แต่เค้าก็ได้ "บ้านครูน้อย" ซึ่งเปรียบเสมือนครอบครัว ที่ได้มอบความอบอุ่นแก่พวกเค้าได้อย่างดี ดีใจค่ะ ที่มีงานอย่างนี้ .. หวังว่าคราวหน้าคงมีจัดอีกนะคะ ------- พันซ์ค่ะ





ความรู้สึกเหรอ

กับเด็ก ๆ ความรู้สึกก็จะออกไปทางสงสารเด็ก ๆ มากกว่า พอเราไปเด็ก ๆ ก็ดีใจ มีคนมาเยี่ยม มีคนมาหา บางคนก็ได้เล่นสนุกกับน้อง ๆ เพื่อน ๆ ที่ไปด้วย บางคนก็เล่นในแบบฉบับของเค้า บางคนก็มานั่งคุยกับเพื่อน ๆ สิ่งที่น่ารักตรงนี้ ก็คือ ความคิด ความอ่าน ของเด็ก เชื่อได้เลยว่า เด็กทุกคนมี ความคิด ความอ่าน มีพัฒนาการที่เท่าเทียมกัน ถ้าเราป้อนให้เค้า เท่า ๆ กัน อย่างที่ไป คุณครูน้อย ท่านสอนเด็กได้ดีมาก คนไม่กี่คนกับเด็ก ๆ เกือบ ๆ ร้อยคน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทุก ๆ อย่างที่ออกสู่สายตาผม คุณครูน้อยท่านทำได้ดีมาก ๆ เลย

มีเรื่องนี่งที่อยากเล่าให้ฟัง ผมเนี่ย นิสัยเป็นคนขี้รำคาญ แล้วก็เบื่ออะไรง่าย ๆ ก็เล่นกะเด็ก ๆ ได้ซักพักก็รู้สึกแบบนั้นนี่ ก็เลยปลีกตัวออกไปทางด้านหลัง เด็ก ๆ ก็ตามมาอีก ก็เลยขู่เด็ก เลยขู่เด็ก ๆ ออกไปว่า "อย่าเข้ามานะ พี่ใจร้ายนะ จะบอกให้ " เด็ก ๆ ก็ยังเข้ามาหา แล้วบอกว่า "ถ้าพี่ใจร้ายจริง พี่ไม่มาหรอก" แหะ ๆ เล่นเอาเราอึ้งไปเลย

แต่ที่รู้สึกดี ๆ ก็เพราะเพื่อน ๆ มากกว่า ตอนแรก ๆ ไม่คิดว่าจะมีคนร่วมมือร่วมใจกันมากขนาดนี้ เห็นแล้วดีใจจริง ๆ เพราะอย่างน้อยคนที่เป็นคนกลางอย่างผมก็รู้สึกภูมิใจนะที่รวบรวมสิ่งของ เงินและคน ได้ขนาดนี้ ทั้งนี้ และทั้งนั้น งานนี้ ต้องขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุก ๆ คนมาก ๆ ทั้ง เพื่อนที่ไปช่วยงาน เพื่อนที่มอบข้าวของต่าง ๆ เพื่อนที่มอบเงินช่วเหลือ และเพื่อน ๆ ทุกคนที่ ร่วมแรงร่วมใจไปด้วยกัน และ Special Thank สำหรับ คุณสุภมาศ,คุณภูมิจิต,คุณจิดาภา,คุณลุงเปี๊ยก ที่ช่วยกันเผยแพร่งานนี้ ออกไปทุก ๆ สื่อ ....ขอบคุณครับ SaintJame





โดย โยโมสต์

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. 2540 ได้ไปร่วมบริจาคที่บ้านครูน้อยด้วยคนหนึ่ง ความรู้สึกที่ไปร่วมบริจาคก็คือ อยากช่วยเหลือเด็กๆ ที่ด้อยโอกาส เพราะว่าได้อ่านบทความแล้ว รู้สึกว่าเราควรที่ช่วยเหลือสังคมบ้าง แม้ว่าจะไม่มีกำลังทรัพย์มากนัก เราก็สามารถที่จะแบ่งปันส่วนของเราให้กับเด็กๆ เหล่านี้ได้ เด็กๆ เหล่านั้นเลือกที่จะเกิดไม่ได้ แต่ว่าเราสามารถที่จะปลูกฝังให้เขาเป็นคนดีได้ ถ้าพวกเขาเหล่านั้นได้แม่แบบที่ดีๆ ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า เด็กๆ ที่นี่ยังโชคดีที่มีโอกาสได้พบกับครูน้อยที่คอยดูแล และปลูกฝังพวกเขา เพราะฉะนั้น ถ้าเรามี เราก็ควรที่จะแบ่งปันให้กับพวกเขาเหล่านั้นบ้าง แม้ว่าจะเล็กน้อย แต่ว่าถ้าพวกเราหลายๆ คนร่วมกันแบ่งปันให้กับเด็กๆ หรือคนที่ด้อยโอกาส จาก 1 กลาย เป็น 2 และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่เด็กๆ เหล่านี้จะได้เป็นกำลังของชาติที่ดีอีกต่อไป ถ้ามีโครงการดีๆ แบบนี้อีก อย่าลืมบอกด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ จาก โยโมสต์





สิงห์สาวคำราม

ประทับใจครูน้อย ที่อุทิศตัวเองอย่างจริงจัง หลังจากที่ได้คุยกับครูน้อย ครูน้อยบอกว่า ครูเองก็ไม่รู้จะมีอายุยืนยาวเท่าไหร่ ก็ได้แต่ฝากให้รุ่นต่อๆ ไปสานงานต่อ ครูน้อยส่งเด็กทุกคนให้ได้เรียนหนังสือ ได้กินข้าวอิ่มท้อง หลีกเลี่ยงสิ่งเสพติด ทั้งๆ ที่ แหล่งยาบ้าอยู่ใกล้บ้าน พ่อแม่ของเด็กบางคนถูกจับเพราะมียาบ้า บางคนมีพ่อแม่ติดคุก แต่เด็กๆ ยังมีรอยยิ้ม ยังร้องเพลงเสียงใสๆ คงเป็นเพราะมีครูน้อยที่เป็นเหมือนพ่อและ แม่คนที่สองของพวกเขา มีเด็กที่จบการศึกษาแล้วกลับมาเป็นพี่เลี้ยง ช่วยดูแลน้องๆ ในรุ่นต่อๆ มา ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่ครูน้อยทำไปไม่เสียเปล่า อย่างน้อยเด็กที่เคยอยู่ในบ้านนี้ ได้รู้จักอดีตของตัวเองและกลับมาเพื่อสร้างอนาคตให้เด็กคนอื่นๆ ต่อไป คนไทย ไม่แล้งน้ำใจกันอย่างแน่นอน อยากเขียนอีก แต่เขาไม่ให้เขียนยาว จึงจบด้วยประการฉะนี้





ลุงเปี๊ยกพูดถึงกิจกรรมบ้านครูน้อย..

ถ้าคุณไม่ได้ไปสัมผัส.. คุณไม่มีทางรู้ซึ้งถึงความรู้สึกแสนวิเศษที่เกิดขึ้นหรอกครับ..ลองนึกภาพของเด็กๆ ตาแป๋วร่วมร้อยคน ร่วมปรบมือร้องเพลงขอบพระคุณพี่ๆที่น่ารักทั้งหลาย.. ที่ได้แบ่งปันสิ่งที่มีเกินพอให้กับหนูน้อยด้อยโอกาสเหล่านี้.. ได้เห็นครูน้อย ซึ่งก็คือหญิงชาวบ้านที่พิการ แต่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ออกรับภาระที่คนทั่วไปแกล้งลืม.. ผมดีใจครับ ที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมในวันนั้น กิจกรรมที่ทำให้วันนั้น ผ่านไปอย่างน่าภูมิใจอีกวันหนึ่ง.. ขอบคุณผู้ริเริ่มและดำเนินการให้วันดีๆอย่างนี้เกิดขึ้น.. และอยากให้มีเช่นนี้อีก ตลอดไป..





จากพี่โต้ง

พี่โต้ง สุดแสนประทับจาย ในความมีน้ำใจ ของทุกๆคน...




หมวยปรารภ

การนัดกันงวดนี้ เริ่มต้นอย่างวุ่นวาย แต่ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทั้งในเรื่องการติดต่อสถานที่ จัดหาเงินทุนบริจาค รวมไปถึงการซื้อข้าวของเพื่อเด็กๆ บอกได้ว่า เหนื่อยแต่สนุกและปลื้มใจหลังจากก้าวพ้นบ้านครูน้อย ในแง่ที่ว่าอย่างน้อยเราก็มีส่วนช่วยเหลือสังคมบ้างเหมือนกัน ดีใจที่เมืองไทยยังมีผู้เสียสละอย่างครูน้อย เป็นโชคดีของเด็กด้อยโอกาสในบ้านเรานะ





ยัยแหม่ม

แหม่ม มีอะไรจะพูดเยอะ แต่เขียนไม่ออกจ๊ะ





ความในใจอันยาวเหยียดของเจ้าปลา


ถูกบังคับให้เขียนความในใจจากการไปทำบุญเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ปลาก็ไม่มีเวลาเขียนสักที จนกระทั่งได้ยินคำขู่ที่ว่า "ถ้าปลาไม่เขียนพี่จะเขียนให้เอง" เลยต้องรีบตาลีตาลานเขียนด้วยความกลัว (จริง ๆ นะเนี่ย) แต่ว่าปลาเขียนสั้น ๆ ไม่เป็น ฉะนั้นก็ทนอ่านกันหน่อยละกันนะจ๊าาา.....

สำหรับครูน้อย จากมุมมองของคนที่เรียนมาด้านสังคมสงเคราะห์ อาจกล่าวได้ว่าครูน้อยนี่แหละ นักสังคมสงเคราะห์ตัวจริง เพราะครูน้อยทำงานด้วยใจ ทำงานบนพื้นฐานปรัชญามนุษย์นิยม การตระหนักในสิทธิมนุษยชน และความเป็นธรรมในสังคม ครูน้อยรักเด็ก ๆ และไม่ท้อถอย ถ้าปลาจะเปรียบเด็ก ๆ เป็นต้นไม้และครูน้อยเป็นผู้คอยดูแลต้นไม้ คอยรดน้ำ พรวนดินให้เจริญเติบโต ซึ่งครูน้อยไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่าให้ต้นไม้เหล่านั้น เติบโตอย่างสวยงาม และออกดอกออกผลให้กับแผ่นดินที่เขาเกิดขึ้นมา มันทำให้ปลานึกถึงที่เคยเรียนหลักการ ในการทำงานสังคมสงเคราะห์ที่ถูกต้องว่า "Help them to help them selves" การช่วยเขาเพื่อให้เขาช่วยตัวเองได้ ครูน้อยเป็นอย่างนั้นจริง ๆ สังคมของเราอาจจะมีรอยรั่ว แต่ครูน้อยก็เป็นอีกท่านหนึ่งซึ่งพยายาม ประสานรอยรั่วเหล่านี้ ขอสัญญาว่าจะไม่ทำให้ความพยายามของครูสูญเปล่า "เรา" ของสัญญา

สำหรับเด็ก ๆ เด็กทุกคนมีความบริสุทธิ์เหมือนผ้าขาว ที่พวกเราจะช่วยกันเติมแต้งแต่งสีให้เขา กลายเป็นผืนภาพที่สวยงาม เด็กทุกคนโชคดีมากที่ได้พบกับครูน้อย ได้มีโอกาสเล่าเรียน มีอาหารให้รับประทานไม่ต้องระหกระเหิน เด็กทราบดีว่าถ้าเขาร้อนจากที่ไหนมา ที่นี่ บ้านหลังเล็ก ๆ นี้จะมีมือที่คอยโอบอุ้ม และมีความเย็นฉ่ำให้เขาได้พักพิงเสมอ หวังว่าจากการทำงานของครูน้อยที่เด็ก ๆ ได้เห็นจะก่อให้เกิดครูขึ้นอีกคนเพื่อสืบสานโยงใย เป็นความหวานความหวังให้กับเด็ก ๆ รุ่นอื่น ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ

สำหรับพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ขอบคุณมาก ๆ ที่เปิดโอกาสให้ปลาได้เข้ามามีส่วนร่วมในงานตรงนี้ ทำให้ได้รู้จักพี่ ๆ เพื่อน ๆ ทำให้ไม่รู้สึกโดเดี่ยว(ความจริงปลาเป็นคนขี้เหงานะจะบอกให้) ปลาอยากเห็นวันภาพอย่างนี้อีกในทุก ๆ ครั้งที่มีกิจกรรม คราวนี้พิสูจน์ให้เห็นชัดเลยว่า Cyberfriend เนี่ย จริงใจ จริงจัง และมีพลัง ทุก ๆ คนร่วมแรง ร่วมใจกันดีมากจริง ๆ ขอกราบขอบพระคุณเป็นพิเศษสำหรับ พี่เม้ง (ผู้คุ้มกฎของห้อง ) พี่กี๊ด คุณสมเกียรติแห่ง it100.5 และบรรดาผองเพื่อนและพี่ ๆ ทั้ง เจมส์ พี่หมวย พี่หุย พี่แหม่ม ซิล น้อง ๆ อย่าง เจ้าคิด เจ้าพงษ์และเจ้าจั๊ก โอ๊ยยเพียบบไปหมดจริง ๆ นี่ยังไม่นับเหล่าสมาชิกน่ารัก ๆ ที่เจ้าเจมส์ไปล่อหลอกเขามาจากที่บริษัทอีกนะ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ แทนสังคมและโลกใบนี้ ที่มีคนดี ๆ อย่างนี้อยู่ ขอบคุณจ๊า

สำหรับตัวเอง ชีวิตของเราล้วนแต่ต้องผ่านทางอันยาวไกล.....เสี้ยวหนึ่งของการเดินทาง เส้นทางของพวกเราเลี้ยวมาบรรจบกัน จากวันนั้น___จนถึงวันนี้ กับ #Sawasdee_เจมส์ และกิจกรรมทุกอย่าง ความรู้สึกดี ๆ เกิดขึ้นมากมาย และหลากหลายเรื่องราว เริ่มจากศูนย์จนกระทั่งบัดนี้ เต็มร้อย แม้กิจกรรมจะสิ้นสุดลงแต่ความรู้สึกดี ๆ ยังไม่เลือนหายไปกับกาลเวลา จะขอเก็บสิ่งดี ๆ ไว้เพื่อเป็นกำลังใจต่อสู้กับวันเวลาข้างหน้าต่อไป สัญญา สัญญา สัญญา

สรุป สุดท้ายจริง ๆ กลอนนี้ให้ครูน้อย เด็ก ๆ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ และตัวเอง (ลอกเขามาจ๊ะ)
     ก้าวหนึ่งถึงจะน้อย ก็ทาบรอยไว้ทอดราย
สองสามจะต่อปลาย ไปสุดสายเพื่อสังคม
     วันวัยในวันพรุ่ง อรุณรุ่งจะทอแสง
วัยวันอันเปลี่ยนแปลง จะกล้าแกร่งประสบการณ์
     เหลียวหลังแล้วแลหน้า เพื่อเพิ่มค่าบนทางผ่าน
เหงื่องามที่กรำงาน คือความหวานคือความหวัง
     ความรักที่รายล้อม ยามหล่อหลอมแรงพลัง
จริงใจและจริงจัง เพื่อถึงฝั่งสุดทางฝัน

									dolphin_
									14-11-97





พี่กิ๊ด

สุขใจ ได้บุญ





เจ้าคิด

ความนัยจายฮ่ะ อิอิ
ม่ายรู้จาเขียนอาราย เอาเป็นว่า คิดเหมือนพี่แหม่ม และทุกคนน่าร๊ากกกกกกก





พี่เม้ง

คือว่า ดีใจที่คนหนุ่มสาวสมัยนี้ยังไม่ทิ้งสังคมอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่ขาดโอกาส













Click here for return to first page.