เดลินิวส์
7/7/2543
ปลอมคำสั่งศาลห้ามเล่นงาน"ไชยบูลย์"
ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดพิชยญาติการาม เมื่อเวลา 15.00 น. ว่า พระธรรมโมลี รักษาการเจ้าคณะภาค 1 ในฐานะประธานคณะผู้พิจารณาชั้นต้น ที่ดำเนินการตามกฎนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายและอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้สอบถามไปยังกรมการศาสนาเนื่องจากได้รับเอกสารจากศาลจังหวัดธัญญบุรี อ้างว่าศาลมีคำสั่งให้คณะผู้พิจารณาชั้นต้นยุติการพิจารณาตามกฎนิคหกรรม มิฉะนั้นอาจถูกดำ เนินการตามกฎหมายฐานละเมิดอำนาจศาลว่า มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
สำหรับเอกสารดังกล่าวมีข้อความระบุว่า เป็นหนังสือรับรองจากศาลจังหวัดธัญญบุรีว่า นายไชยบูลย์ได้ฟ้องพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ฐานละเมิด แต่ด้านบนของเอกสารระบุข้อความว่า เป็นคำชี้แจงจากศาลธัญญบุรี ขอให้คณะผู้พิจารณาชั้นต้นระงับการดำเนินการตามกฎนิคหกรรม หากยังกระทำต่อไปจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
อย่างไรก็ตามกรมการศาสนาได้ประสานไปยังศาลธัญญบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของเอกสารดังกล่าว พบว่าตัวแทนวัดพระธรรมกายได้มายื่นคำร้องต่อศาลไว้เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2543 ในคดีแพ่งที่ 193/2543 โดยได้ขอให้ศาลเปิดไต่สวนฉุกเฉินและขออำนาจคุ้มครองในวันเดียวกัน
แต่ศาลได้ยกคำร้องและมีคำสั่งว่าได้พิเคราะห์แล้ว คำร้องของโจทก์เห็นว่ายังมีขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.สงฆ์อีกหลายขั้นตอน กว่าคำวินิจฉัยจะถึงที่สุด จึงไม่มีเหตุฉุกเฉินจึงให้ยกคำร้อง ส่วนรูปคดีนั้นศาลได้นัดชี้วันที่ 12 ก.ย.เวลา 13.30 น. คดีนี้ศาลจึงไม่มีคำสั่งห้ามดำเนินการตามกฎนิคหกรรมแต่อย่างใด
ด้านนายมนัส ภาคภูมิ ผอ.สำนักงานเลขานุการมหาเถรสมาคม เปิดเผยว่า ได้รับการสอบถามจากพระธรรมโมลีเช่นกัน และเมื่อตรวจสอบแล้วก้พบว่าไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ทำเอกสารส่งถึงพระธรรมโมลี น่าจะมีเจตนาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝีมือใคร
ส่วนพระธรรมโมลีกล่าวว่า ได้รับรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จะดำเนินการไต่สวนต่อไปตามปกติ โดยส่วนตัวเชื่อว่าศาลทางโลกคงไม่เข้ามาก้าวก่ายกิจของคณะสงฆ์ เพราะในขั้นนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาว่ามีความผิดตามร้องเรียนหรือไม่ ยกเว้นข้อกล่าวหาเรื่องยักยอกทรัพย์เท่านั้นที่เป็นเรื่องที่ศาลทางโลกพิจารณาอยู่.