วัด

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
       หรือ วัดพระแก้ว เป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ตรงมุมด้านตะวัน
ออกเฉียงเหนือของพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ ประดิษฐานพระมหา
มณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) และใช้เป็นที่ ประกอบพระราช
พิธีทางศาสนาที่สำคัญ วัดพระแก้วสร้างแล้วเสร็จใน ปี พ.ศ. 2327
และได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1-9 ตลอด
ทุกรัชกาล ภายในพระอุโบสถ และระเบียงรอบวัดมีภาพจิตรกรรม
ฝาผนังสวยงามมาก สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ภายในวัดได้แก่ พระปรางค์
8 องค์ พระศรีรัตนเจดีย์ ปราสาทนครวัดจำลอง ฯลฯ


วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
       ตั้งอยู่ริมสนามหลวง ถนนหน้าพระธาตุ (ใกล้กับมหาวิทยาลัย
ศิลปากร) เดิมชื่อว่า วัดสลัก กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท
โปรดให้สร้างขึ้นใหม่พร้อมกับพระบรมมหาราชวังแล้วพระราช
ทานนามว่า "วัดนิพพานาราม" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดพระศรี
สรรเพชญ์" เคยใช้เป็นที่สังคายนาพระไตรปิฏกหลังจากกรม
พระราชวังบวรฯ เสด็จสวรรคตแล้วพระบาทสมเด็จพระพุทธยอด
ฟ้าจุฬาโลกทรงเปลี่ยนนามพระอารามใหม่ว่า "วัดมหาธาตุ" ส่วน
คำว่า "ยุวราชรังสฤษดิ์" มาเติมในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอม
เกล้าเจ้าอยู่หัวหลังจากทรงปฏิสังขรณ์แล้ว วัดนี้มีมหาวิทยาลัยสงฆ
์ชื่อ "มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย"


วัดบวรนิเวศวิหาร
        อยู่ที่ถนนพระสุเมรุ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยมีกรม
พระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพเป็นแม่กองก่อสร้างเคยเป็นที่
ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4, 6, 7
และ 9 เมื่อคราวทรงผนวชสิ่งที่ น่าชมในวัดนี้ได้แก่ พระพุทธ
ชินสีห์ พระรูปสมเด็จพระสมณเจ้า 2 องค์ คือ สมเด็จกรมพระ
ยาปวเสศวิทยาลงกรณ์ และสมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรส
นอกจากนี้ยังมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือขรัวอินโข่ง ตำหนักปั้นหยา
และพระศาสดา พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ซึ่งพระมหาธรรมราชา
ลิไททรงสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1900 สอบถามรายละเอียด
โทร. 281-2831-2

 
    ::หน้าหลัก
    ::วัด
    ::วัง
    ::เกาะรัตนโกสินทร์
    ::พิพิธภัณฑ์
    ::ศูนย์วัฒนธรรม
    ::อนุเสาวรีย์
    ::สวนสาธารณะ
    ::สวนสนุก
    ::แหล่งซื้อของ
    ::ชุมชน
    ::กีฬา
 

 
 
 
 
 
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
       ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอัมรินทร์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ตรงข้ามกับ
วัดโพธิ์ ข้ามเรือได้ที่ท่าเตียน เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา
เดิมชื่อว่า "วัดแจ้ง" ต่อมาเมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีย้าย ราชธานีจากกรุงศรี
อยุธยามาตั้ง ณ กรุงธนบุรี ได้โปรดเกล้าฯ ให้กำหนดเอาวัดแจ้งเป็นวัด
ในเขตพระราชฐานใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ได้อัญเชิญมา
จากเวียงจันทน วัดนี้ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาล
ที่ 2 จึงถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 เมื่อบูรณะเสร็จแล้วได้พระราชทาน
นามว่า "วัดอรุณราชธาราม" ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการก่อสร้าง พระปรางค
์องค์ใหญ่ซึ่งมีความสูง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร แต่มาเสร็จสมบูรณ
์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดอรุณราชวราราม"
 
 
วัดราชนัดดารามวรวิหาร
       อยู่ที่ถนนมหาไชย สร้างเมื่อ พ.ศ. 2389 เป็นวัดที่รัชกาลที่ 3 โปรด
เกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าโสมนัส
วัฒนาวดี มีเจ้าพระยายมราชเป็นแม่กองออกแบบ เจ้าพระยา ศรีพิพัฒน์
เป็นแม่กองสร้างโลหะปราสาท วัดนี้แปลกกว่าวัดอื่น คือ โปรดเกล้าฯ ให้
สร้างธรรมเจดีย์ปราสาทแทนการสร้างพระเจดีย์ (นับเป็นแห่งที่ 3 ของ
โลก) มีความสูง 36 เมตร ประกอบด้วย เจดีย์ล้อมรอบ 37 องค์ เพื่อให
้เท่ากับ"โพธิปักขียธรรม

 
 


วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

       หรือที่เรียกว่า วัดโพธิ์ อยู่ที่ถนนมหาราช ข้างพระบรมหาราชวัง
เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อ
ให้พระภิกษุสงฆ์ได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรม วัดนี้ถือเป็นวัดประจำรัช
กาลที่ 1 ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรด
เกล้าฯ ให้บูรณะวัดโพธิ์ใหม่ทั้งหมด และได้นำเอาตำราวิชาการด้าน
ต่าง ๆ มาจารึกไว้โดยรอบ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน
ถือได้ว่าวัดโพธิ์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย นอกจากนี้ที่วัด
โพธิ์ยังมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ก่อ
อิฐถือปูนปิดทองทั้งองค์ ยาว 46 เมตร สูง 15 เมตร ที่ฝ่าพระบาท
แต่ละข้างมีลวดลายประดับมุกเป็นภาพมงคล 108 ประการ อันเป็น
ลักษณะอย่างหนึ่งของมหาบุรุษตามคติของอินเดีย

 
 
วัดเทพธิดาราม
       อยู่ที่ถนนมหาไชย วัดนี้เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า
เจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อพระราชทานแก่กรมหมื่น
อัปสรสุดาเทพ เมื่อปี พ.ศ. 2379 เสร็จในปี พ.ศ. 2382 สถาปัตย
กรรมสำคัญคือ พระปรางค์ทิศทั้งสี่ เป็นฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 3
บุษบกที่รองรับพระประธานภายในโบสถ์ประดิษฐ์อย่างสวยงาม
และที่ผนังพระอุโบสถมีภาพเขียนเป็นรูปพุ่มข้าวบิณฑ์แบบอย่าง
ในรัชกาลที่ 3นอกจากนี้ระหว่าง พ.ศ. 2383-2385 วัดนี้เคยเป็นท
ี่พำนักของสุนทรภู่กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อคราวบวชเป็น
พระภิกษุ ปัจจุบันยังมีกุฏิหลังหนึ่งเรียกว่า "บ้านกวี" เปิดเป็นพิพิธ
ภัณฑ์ให้ผู้สนใจเข้าชมได้ทุกวัน

 
 

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

       อยู่ที่ถนนเฟื่องนคร บริเวณวัดนี้เดิมเป็นวังของพระบรมวงศ
์เธอกรมหลวง บดินทร ไพศาลโสภณ วัดราชบพิธฯ เริ่มก่อสร้าง
เมื่อ พ.ศ. 2412 (สมัยรัชกาลที่ 5) เสร็จในปี พ.ศ. 2413 แล้ว
นิมนต์พระสงฆ์จากวัดโสมนัสวรวิหารมาจำพรรษาอยู่ พร้อมกับ
อัญเชิญพระพุทธนิรันตรายมาประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ
ศิลปกรรมที่สำคัญในวัดได้แก่ บานประตู และหน้าต่างของพระ
อุโบสถที่มีลายไทยลงรักประดับมุกเป็นรูปดวงตราครื่องราช
อิสริยาภรณ์ต่าง ๆ สวยงามมาก

 
 
วัดสุทัศน์เทพวราราม

       ตั้งอยู่ที่ถนนบำรุงเมือง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า
จุฬาโลกมีพระราชประสงค์จะสร้างพระวิหารให้มีขนาดใหญ่
เท่ากับพระวิหารวัดพนัญเชิง เป็นศรีสง่าแก่พระนคร ได้พระ
ราชทานนามไว้ว่า "วัดมหาสุทธาวาส" แต่สร้างยังมิทันสำเร็จ
ได้เสด็จสวรรคตเสียก่อน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าน
ภาลัยได้ทรงดำเนินงานต่อ และพระราชทานนามวัดใหม่ว่า
"วัดสุทัศน์เทพวราราม" สร้างเสร็จสมบูรณ์ในสมัยพระบาท
สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่วัดสุทัศน์ไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่น ๆ
เพราะมีสัตตมหาสถานเป็นอุเทสิกเจดีย์ (คือต้นไม้สำคัญในพุทธ
ศาสนา 7 ชนิด) แทนที่อยู่แล้ว สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่
พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต) พระประธานของวัดที่ได้ชะลอ
มาจากวิหารหลวงวัดมหาธาตุเมืองสุโขทัย และบานประตูพระ
วิหาร ซึ่งเป็นศิลปกรรมชั้นเยี่ยมทางด้านการแกะสลักในสมัย
กรุงรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะคู่ที่เป็นฝีพระหัตถ์ของพระบาท
สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้นำไปเก็บ
รักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
 
 

วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม

       ตั้งอยู่ติดกับด้านเหนือสวนสราญรมย์ มีเนื้อที่เพียง 2 ไร่
3 งาน 20 ตารางวา เป็นวัดที่มีเนื้อที่เล็กมาก วัดนี้สร้างขึ้นในสมัย
รัชกาลที่ 4 โดยมีพระราชประสงค์จะให้เป็นวัดธรรมยุติ และเป็น
ไปตามโบราณประเพณีว่า ในราชธานีต้องมรวัดสำคัญ 3 วัดเสมอ
จึงทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อสวนกาแฟหลวง
ในรัชกาลที่ 3 สร้างวัดเล็ก ๆ ขึ้นวัดหนึ่ง พระราชทานนามว่า
"วัดราชประดิษฐ์สถิตธรรมยุติการาม" แล้วต่อมาทรงเปลี่ยนชื่อ
เป็น "วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม" สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด
นี้คือ พระวิหารหลวงซึ่งมีภาพจิตรกรรมฝาฝนังเกี่ยวกับพระราช
พิธีสิบสองเดือน ภาพสุริยุปราคาวัดถูกระเบิดพังทลาย โดยเฉพาะ
พระอุโบสถที่มีภาพจิตรกรรม ฝาผนังฝีมือขรัวอินโข่งถูกระเบิด
ทำลายจนหมด ต่อมาจึงได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ดังท
ี่เห็นในปัจจุบัน

 
 
วัดสระเกศ (ภูเขาทอง)
       อยู่นอกกำแพงเมือง ริมคลองมหานาค ตรงที่บรรจบกับ
คลองบางลำพู เดิมเป็นวัดเก่าชื่อว่า "วัดสะแก" ได้รับการสถาป
นาขึ้นใหม่ทั้งพระอารามในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระ
พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระราชทานนามว่า "วัดสระเกศ"
       ส่วนเจดีย์ภูเขาทอง
นั้นเริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จ
พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยทรงเลียนแบบมาจากภูเขาทองในสมัย
กรุงศรีอยุธยาแล้วเสร็จในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัวได้รับพระราชทานนามว่า "สุวรรณบรรพต" มีความสูง
77 เมตร บนยอดสุวรรณบรรพตเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์บรรจุ
พระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบที่เมืองกบิลพัสดุ์ และพิสูจน์ได
้ว่าเป็นของพระสมณโคดมซึ่งเป็นส่วนแบ่งของพระราชวงศ์ศาก
ยราชเพราะมีคำจารึกอยู่ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ขณะนั้นกำลัง
ทรงผนวชอยู่ที่ประเทศอินเดีย ได้ส่งพระบรมสารีริกธาตุเข้ามา
ถวายในฐานะที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงเป็นกษัตริย์เพียงพระ
องค์เดียวที่เป็นพุทธมามกะอยู่ในขณะนั้น
 
 

วัดเบญจมบพิตร
       อยู่ที่ถนนศรีอยุธยา ด้านหน้าของวัดสุทัศน์ เดิมเป็นวัดร้าง
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ
ให้สร้างวัดเบญจมบพิตรขึ้นแทนวัดเก่า 2 วัด คือวัดแหลม กับวัด
ไทรทอง โดยมี
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยานริศรานุ
วัดติวงศ์เป็นนายช่างออกแบบ และพระยาราชสงคราม (กร หงสกุล)
เป็นนายช่างก่อสร้าง สิ่งที่น่าชมภายในวัดได้แก่ พระอุโบสถ สร้าง
ด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ซึ่งเหลือมาจากการสร้างพระที่นั่ง
อนันตสมาคม ที่ระเบียงวัดเบญจมบพิตรสมเด็จกรมพระยาดำรง
ราชานุภาพได้ทรงรวบรวมพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ที่ได้นำมาจาก
หัวเมือง 25 องค์ ไว้โดยรอบ นอกจากนี้พระประธานของวัดได้จำ
ลองพระพุทธชินราชจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพิษณุโลก
มาประดิษฐานไว้ด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 281-2501
 
 
วัดไตรมิตรวิทยาราม
       อยู่ที่ถนนเจริญกรุง (ใกล้หัวลำโพง) เดิมชื่อว่า "วัดสามจีน" ภาย
ในวัดมีพระพุทธรูปปูนปั้นองค์หนึ่ง เมื่อคราวเปลี่ยนที่ตั้ง ปูนที่หุ้มอยู่ไ
ด้กะเทาะออก เห็นภายในเป็นพระพุทธรูปทองคำ ลักษณะองค์พระ
เป็นศิลปะสุโขทัยจึงได้ถวายพระนามว่า "พระสุโขทัยไตรมิตร" เป็น
พระพุทธรูปทองคำที่มีส่วนผสมของทองคำสูงมาก เรียกว่า "ทองเนื้อ
เจ็ดน้ำสองขา" มีขนาดหน้าตักกว้าง 6 ศอก 5 นิ้ว สูง 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว
 
 

วัดอินทรวิหาร

        ตั้งอยู่ที่บางขุนพรหม ถนนวิสุทธิกษัตริย์ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระ
บาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว เป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธศรีอาร
ยเมตรัย" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ สูง 32 เมตร กว้าง 10
เมตร 24 นิ้ว บนยอดพระเกตุมาลาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
จากประเทศศรีลังกา เปิดให้เข้าชมทุกวัน โดยไม่เสียค่าเข้าชม
 
     
   
     
Home | Site Map| Contact Us |
ประวัติศาสตร์ | การปกครอง |
สถานที่ท่องเที่ยว | การคมนาคม | เทศกาล
Copyright 2003.All right reserve by www.SawasdeeBangkok.com