การจำนอง
เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก ผู้ที่ผ่อนบ้านกับธนาคารจะได้รู้จักกับการจำนองเป็นอย่างดี
การจำนองก็คือการที่เราเอาทรัพย์สินไปประกันการชำระหนี้นั่นเอง ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่จะมาจากเงินกู้
แต่ก็อาจจะเป็นหนี้อื่นๆได้ คือเรียกว่าถ้ามีหนี้ ก็มีการจำนองได้ แต่ถ้าไม่มีหนี้ก็จำนองไม่ได้
ลักษณะที่สำคัญของการจำนองก็คือ ทรัพย์สินที่จำนองต้องเป็น อสังหาริมทรัพย์เท่านั้น
จะเป็นสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ นอกจากนี้การจำนองต้องมีการทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
พูดง่ายๆก็คือ ต้องไปทำสัญญาจำนองกันที่สำนักงานที่ดินนั่นเอง จะมาทำกันเองไม่ได้
มิเช่นนั้น จะไม่ถือว่าเป็นการจำนอง อาจจะมีบางคนกู้ยืมเงินกัน แล้วเอาโฉนดไปให้เจ้าหนี้ยืดถือไว้เฉยๆ
อย่างนี้ไม่เรียกว่าการจำนอง และก็ไม่เข้าข่ายเป็นการจำนำด้วย แต่ถ้าเจ้าหนี้ท่านใดได้ทำไปในลักษณะนี้ก็ไม่ต้องตกใจ
เพราะถึงแม้ว่าจะไม่เป็นการจำนอง หรือจำนำ แต่เจ้าหนี้ก็ยังมีสิทธิที่จะยึดถือโฉนดนั้นไว้ได้
จนกว่าจะได้รับการชำระหนี้จากลูกหนี้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องมีสัญญากู้อยู่ด้วยนะ
คราวนี้มาดูรายละเอียดปลีกย่อยของการจำนองกันดีกว่า
1. การจำนองต้องมีการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกว่า
ถ้าคุณจะทำการจำนองนั้น คุณต้องไปทำกันที่สำนักงานที่ดินเท่านั้น ซึ่งทรัพย์สินที่จะจำนองก็คือ
ที่ดิน หรือบ้านพร้อมที่ดิน แต่อาจจะมีทรัพย์สินอื่นที่มิใช่อสังหาริมทรัพย์ ก็อาจสามารถจำนองได้คือ
เรือกำปั่นหรือเรือที่มีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟหรือเรือยนต์มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป,
แพ, สัตว์พาหนะ, และสังหาริมทรัพย์อื่นๆซึ่งกฎหมายบัญญัติไว้ให้จดทะเบียนเฉพาะการ
แต่มีข้อแม้ว่าสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ต้องมีการจดทะเบียนไว้แล้ว
2. ผู้ที่จำนองต้องเป็นเจ้าของทรัพย์เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่จะจำนองแล้ว
ก็จำนองไม่ได้ แต่ว่าหนี้ที่เราเอาทรัพย์สินไปจำนอง จะเป็นหนี้ของใครก็ได้ เช่น นาย
ก.เป็นผู้กู้ แต่เราเอาทรัพย์สินของเราไปจำนองหนี้ของนาย ก.ได้ อย่างนี้ได้ หรือแม้ว่าทรัพย์สินนั้นจะมีคนอื่นเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วยก็สามารถจำนองได้
แต่จำนองในเฉพาะส่วนของตนเท่านั้น
3. การจะบังคับจำนอง ต้องฟ้องคดีต่อศาล การบังคับจำนอง
เจ้าหนี้จะทำการยึดทรัพย์สินที่จำนองเองไม่ได้ จะต้องมีการส่งจดหมายเพื่อบอกกล่าวให้ลูกนี้นำเงินมาชำระหนี้
โดยกำหนดเวลาให้พอสมควรเสียก่อน ถ้าลูกหนี้ไม่มาชำระ จึงจะฟ้องร้องคดีต่อศาลแล้วยึดเอาทรัพย์ออกขายทอดตลาด
นำเงินมาชำระหนี้ได้ ส่วนใหญ่การส่งจดหมายบอกกล่าวนั้น ถ้าคุณไปจ้างทนายแล้ว ทนายก็จะดำเนินการให้เองในส่วนนี้
เพราะก่อนฟ้องคดีต่อศาล ไม่ว่ากฎหมายจะกำหนดให้ส่งจดหมายบอกกล่าวหรือไม่ก็ตาม ทนายก็จะดำเนินส่งให้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ เพราะลูกหนี้อาจจะนำเงินมาชำระให้เลยก็ได้ ซึ่งจะทำให้เรื่องจบลงโดยที่ไม่ต้องฟ้อง
เป็นการประหยัดเวลาของทุกฝ่าย
4. ขายทอดตลาดได้เงินเท่าไรก็ชำระหนี้แค่นั้น อันนี้เป็นข้อกำหนดของกฎหมาย
คือว่า ถ้ามีการฟ้องศาลบังคับจำนองกันแล้ว ศาลสั่งให้ยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ถ้าขายแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้
เจ้าหนี้ก็ได้รับไปแค่นั้น ตัวอย่าง เป็นหนี้กันอยู่หนึ่งแสนบาท แต่ยึดทรัพย์ขายทอดตลาดได้เงินมาเพียง
แปดหมื่นบาท ส่วนที่ขาดไปอีกสองหมื่นบาท เจ้าหนี้จะไปเรียกจากลูกหนี้อีกไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่า
จะได้มีข้อตกลงยกเว้นข้อกำหนดในเรื่องนี้ไว้ในสัญญา ซึ่งศาลฎีกาเคยวินิจฉัยว่า สามารถตกลงยกเว้นข้อกำหนดนี้ได้
เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งตัวผมเองก็ยังมีความเห็นแย้งในเรื่องนี้อยู่นิดๆ
ในลักษณะต่างมุมมอง ซึ่งไม่มีใครผิดใครถูก ส่วนผู้ที่ใช้การยกเว้นข้อกฎหมายข้อนี้มากที่สุดก็คือธนาคาร
5. เจ้าหนี้จำนองมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น
ข้อดีของการจำนองก็คือ
หนี้จำนองเป็นหนี้ที่ให้สิทธิเจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น ถ้าสมมุติว่าลูกหนี้เป็นหนี้อยู่สามรายคือ
นายหนึ่ง, นายสอง, และเรา แต่นายหนึ่งเป็นเจ้าหนี้จากเงินกู้ธรรมดาคือไม่มีการจำนองกันไว้
และนายสองเป็นหนี้จากการซื้อขาย ส่วนเราเป็นเจ้าหนี้ที่มีทรัพย์สินจำนองไว้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้จากอะไรก็ตาม
ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้แก่นายหนึ่ง นายหนึ่งอาจจะฟ้องร้องคดีต่อศาลยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ขายทอดตลาด
รวมทั้งอาจจะยึดทรัพย์ที่จำนองด้วย แต่เมื่อขายทรัพย์ที่จำนองแล้ว เราจะมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากเงินที่ขายได้ก่อนจนครบถ้วน
ถ้ามีเงินเหลือจึงจะเฉลี่ยไปให้นายหนึ่งกับนายสอง |
|