|
|
|
|
|
|
|
|
๑.
ตัวพระ สวมเสื้อแขนยาวปักดิ้น
และเลื่อม มีอินทรธนูที่ไหล่ ส่วนล่างสวมสนับเพลา
(หมายเหตุ : กางเกง) ไว้ข้างในนุ่งผ้ายกจีบโจงไว้หางหงส์ทับสนับเพลาด้านหน้ามีชายไหวชายแครงห้อยอยู่
ศีรษะสวมชฎา สวมเครื่องประดับต่างๆ เช่น กรองคอ
ทับทรวง ตาบทิศ ปั้นเหน่ง ทองกร กำไลเท้า เป็นต้น
แต่เดิมตัวพระจะสวมหัวโขน แต่ภายหลังไม่นิยม
เพียงแต่แต่งหน้า และสวมชฎาแบบละครในเท่านั้น
ตัวพระ ผู้แสดงที่เป็นมนุษย์ทั้งผู้หญิง
ผู้ชาย และเทวดา ซึ่งได้แก่ พระราม พระลักษณ์
พระพรต พระสัตรุต พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม
ในปัจจุบันนี้มักสวมเพียงชฎา ไม่ได้สวมหัวโขนปิดหน้าดังสมัยโบราณ
เพียงแต่ชฎาของเทพเจ้าต่างๆนั้นจะสามารถสังเกตได้จากลักษณะของชฎานั้นๆ
เช่น พระพรหมจะสวมชฏาที่มีพระพักตร์อยู่ ๔ ด้าน
พระอินทร์จะสวมชฎายอดเดินหน เป็นต้น ผู้ที่จะหัดแสดงเป็นตัวพระ
จะคัดเลือกผู้มีลักษณะใบหน้าสวย จมูกเป็นสัน
ลำคอโปร่งระหง ไหล่ลาดงาม ช่วงอกใหญ่ ลำตัวเรียว
เอวเล็ก ตามแบบชายงามในวรรณคดีไทย
|
|
|
|
|
๒.
ตัวนาง สวมเสื้อแขนสั้นเป็นชั้นในแล้วห่มสไบทับ
ทิ้งชายไปด้านหลังยาวลงไปถึงน่อง ส่วนล่างนุ่งผ้ายกจีบหน้า
ศีรษะสวมมงกุฎ รัดเกล้า หรือกระบังหน้าตามแต่ฐานะของตัวละคร
ตามตัวสวมเครื่องประดับต่างๆ เช่น กรองคอ สังวาล
พาหุรัด เป็นต้น แต่เดิมตัวนางที่เป็นตัวยักษ์
เช่น นางสำมนักขา นางกากนาสูร จะสวมหัวโขน แต่ภายหลังมีการแต่งหน้าไปตามลักษณะของตัวละครนั้นๆโดยไม่สวมหัวโขนบ้าง
ตัวนาง ตัวละครตัวนางในเรื่องรามเกียรติ์นั้นมีทั้งที่เป็นมนุษย์
ปลา นาค แต่ละตัวจะบอกชาติกำเนิดด้วยการสวมศีรษะ
และหางเป็นสัญลักษณ์ ตัวนางในโขน และละครรำนั้นมี
๒ประเภท คือนางกษัตริย์ ซึ่งมีลีลาและอิริยบถแสดงถึงความนุ่มนวล
แลดูเป็นผู้ดี กับนางตลาด ซึ่งจะมีบทบาทท่าทางกระฉับกระเฉง
ว่องไว สะบัดสะบิ้ง ผู้ที่จะรับบทนางตลาดได้จะต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางนาฏศิลป์มากกว่าผู้ที่แสดงเป็นนางกษัตริย์
ผู้ที่จะหัดแสดงเป็นตัวนาง จะคัดเลือกผู้ที่มีลักษณะคล้ายตัวพระ
แต่ต้องมีใบหน้างาม กิริยาท่าทางนุ่มนวลอย่างผู้หญิง
|
|
|
|
|
๓.
ตัวยักษ ์เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่คล้ายตัวพระ
จะแตกต่างกันที่การนุ่งผ้า คือ ตัวยักษ์จะนุ่งผ้าไม่มีหางหงส์
แต่มีผ้าปิดก้นลงมาจากเอว ส่วนศีรษะสวมหัวโขนตามลักษณะของตัวละคร
ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยชนิด
ตัวยักษ์ ตัวยักษ์จะต้องมีลักษณะสูง
วงเหลี่ยมตลอดจนการทรงตัวต้องดูแข็งแรง บึกบึน
ลีลาท่าทางมีสง่า ซึ่งต้องได้รับการฝึกหัดมาอย่างดีเพราะถือกันว่าหัดยากกว่าตัวอื่นๆ
ผู้ที่จะหัดแสดงเป็นตัวยักษ์ คัดเลือกผู้ที่มีลักษณะคล้ายตัวพระ
แต่ไม่ต้องเลือกหน้าตา รูปร่างต้องใหญ่ และท่าทางแข็งแรง
|
|
|
|
|
๔.
ตัวลิง เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่คล้ายตัวยักษ์
แต่มีหางลิงห้อยอยู่ใต้ผ้าปิดก้นอีกที สวมเสื้อตามสีประจำตัวในเรื่องรามเกียรติ์
ไม่มีอินทรธนู ตัวเสื้อปักลายขดเป็นวง สมมุติว่าเป็นขนตามตัวลิง
ส่วนศีรษะสวมหัวโขนตามลักษณะของตัวละคร ซึ่งมีอยู่ประมาณ
๔๐ ชนิด
ตัวลิง ตัวลิงจะต้องมีท่าทางลุกลี้ลุกลน
กระโดดโลดเต้นตามลักษณะธรรมชาติของลิง โดยเฉพาะตัวหนุมานทหารเอกซึ่งจะต้องได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี
ผู้ที่จะหัดแสดงเป็นตัวลิง คัดเลือกผู้ที่มีลักษณะป้อมๆ
ท่าทางหลุกหลิกคล่องแคล่วว่องไว
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ที่จะหัดโขนนั้นมักเป็นผู้ชายตามธรรมเนียมมาแต่โบราณ
โดยเริ่มหัดกันตั้งแต่อายุ ๘ -๑๒ ขวบ ในชั้นต้นคุณครูผู้ใหญ่จะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกผู้สมควรหัดเป็นตัวแสดงต่างๆเมื่อผู้ที่หัดเป็นตัวเหล่านี้ไปแล้ว
ครูก็จะพิจารณาท่าทีหน่วยก้านเพื่อคัดอีกชั้นหนึ่ง
เช่น พวกหัดตัวพระคัดให้เป็นพระใหญ่หรือพระน้อย
พวกหัดตัวนางคัดให้เป็นนางเอก หรือนางรอง
พวกหัดตัวยักษ์ให้เป็นยักษ์ใหญ่ ยักษ์เล็ก
หรือเสนายักษ์ และพวกหัดตัวลิงจะให้เป็นพญาวานร
หรือเหล่าวานรสิบแปดมงกุฎ เป็นต้น หลังจากครูคัดเลือกศิษย์แล้ว
เมื่อถึงวันพฤหัสบดี ซึ่งถือว่าเป็นวันครู
ก็จะทำพิธีไหว้ครู และรับเข้าเป็นศิษย์ โดยศิษย์ต้องมีดอกไม้ธูปเทียนเป็นเครื่องสักการะแก่ครู
เมื่อครูรับการสักการะแล้วก็จะทำความเคารพถึงครูบาอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้วอีกทีหนึ่ง
แล้วจึงจับท่าให้ศิษย์เป็นปฐมฤกษ์ ต่อจากนั้นจึงให้ศิษย์ไปฝึกหัดกับครูผู้ช่วยสอนแต่ละฝ่ายตามตัวโขน
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|